มงคลที่ ๒๕
กตัญญตา เอตัมมังคะละมุตตะมัง
ความกตัญญู เป็นอุดมมงคล

    เย คุณา อะนุสสะรันติ กะตะมา ทะเว กตัญญุตา อิธะ ปุพพะการี อะติทุลละภาติ.

   บัดนี้ จักได้วิสัชนาในกตัญญู ในมงคลที่ ๒๕ ตามพระบาลีและอรรถกถาว่า เย คุณา อนุสสะรันติ แปลว่า บุคคลทั้งหลายใดระลึกถึงคุณท่านผู้มีพระคุณ และกระทำตอบแทนซึ่งท่านผู้มีคุณ จัดเป็นมงคลอันประเสริฐด้วยพระพุทธองค์ตรัสว่า ทะเว เม ภิกขะเว ทุลละภา ดูกรภิกษุทั้งหลาย คน ๒ จำพวก เราตถาคตกล่าวว่าหาได้ยากในโลก

   คน ๒ จำพวกนั้น คือ จำพวกใด คือ บุพพการี คนที่ทำคุณไว้ก่อน ได้แก่บิดามารดา อุปัชฌาย์อาจารย์ เป็นต้น และคนที่ได้ทำเกื้อกูลอุดหนุนให้ตนได้ความสุขในชาตินี้ มีให้ซึ่งข้าวและน้ำ เป็นต้น เีรียกว่าบุพพการีผู้ทำคุณก่อน ผู้ที่รู้ตอบแทนซึ่งคุณแก่ท่านผู้มีคุณ ด้วยการให้ข้าวของ มีข้าวและน้ำเป็นต้นหรือช่วยกิจการงานต่าง ๆ หรือเจ็บไข้มีธุระอะไร ก็ช่วยไปตามกาล เรียกว่ากตัญญูกตเวทีบุคคล คน ๒ จำพวกนี้พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า หายากในโลก ด้วยคนทั้งหลายอวิชชาตัณหา เป็นต้น ยังครอบงำอยู่ในสันดาน

   อนึ่ง กตัญญูรู้คุณ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ รู้คุณบุญกุศลที่นำตนมาเกิดในสุคติ ถ้ารู้คุณในที่ทั้งปวงดังกล่าวมานี้แล้ว ให้มีความกตเวที ทำการตอบแทนคุณในที่ทั้งปวง ดังกล่าวมาแล้วนั้นเถิด

   ถามว่า จะให้ทำการตอบแทนในพระพุทธ เป็นต้นนั้น จะทำอย่างไร แก้ว่า ให้กราบไหว้บูชาระลึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อยู่เนือง ๆ อย่าได้มีความประมาท คิดทำกองการกุศลอยู่เนือง ๆ คือ ทาน ศีล ภาวนา ฟังธรรมเทศนาอย่าได้ประมาท เหมือนนางกุมารีที่ถวายข้าวตอกแก่พระมหากัสสปเถระ ครั้นงูขบนางตายไปก็ได้ไปบังเกิดเป็นนางฟ้าอยู่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีวิมานทองงามโสภา มีนางฟ้าพันหนึ่งเป็นบริวาร ก็มีความชื่นบานหรรษา ประกอบด้วยกตัญญู กตเวทิตา ลงมาทำกุศลแรงกล้า คือ มาทำการปฎิบัติพระมหากัสสปเถระ มีกวาดวิหารและตักน้ำใช้น้ำฉันมาถวายแก่พระมหากัสสปเถระทุกวัน ๆ

   ครั้นท่านห้ามเสียไม่ให้กระทำต่อไป นางเทพธิดาก็เสียใจ ร้องให้เหาะขึ้นบนอากาศเวหา ครั้งนั้น สมเด็จพระศาสดาจึงทรงเปล่งพระรัศมีไปสู่ที่เฉพาะหน้าตรัสเทศนาโปรดนางเทพธิดา ครั้นจบพระธรรมเทศนา นางเทพธิดาก็ได้สำเร็จพระโสดาปัตติผล เป็นพระอริยบุคคลในพระศาสนา นางเทพธิดาก็กลับไปสู่วิมานเมืองฟ้า ในกาลครั้งนั้น ความว่า คนมีความกตัญญูรู้ทำบุญให้ทานการกุศล ย่อมให้ไปในสวรรค์ คนอกตัญญูไม่รู้คุณท่านผู้มีคุณ ย่อมบังเกิดในนรก ให้เสวยทุกขเวทนา ดังนิทานเรื่องพญาช้างฉัททันต์-พระเจ้าปทุมและเรื่องทุฏฐกุมาร ฯ ล ฯ...

            ย้อนกลับ         ปิดหน้านี้         ถัดไป