๑๓ ทารัสสะ สังคะโห เอตัมมังคะละมุตตะมัง
การสงเคราะห์ภรรยา เป็นอุดมมงคล

   บัดนี้ จักได้วิสัชนาในมงคลที่ ๑๓ ตามพระบาลี และอรรถกถาว่า ทารัสสะ สังคะโห จะ ทารา แปลว่า บุคคลที่เป็นสามีสงเคราะห์แก่ภรรยาทั้งหลาย จัดเป็นมงคลจะนำมาซึ่งความเจริญและความสุขสิ้นกาลนาน

   ถามว่า ภรรยาในโลกนี้มีเท่าไร แก้ว่า ภรรยามี ๗ จำพวก คือ วะธะกาภริยา ๑ โจรีภริยา ๑ อัยกาภริยา ๑ มาตาภริยา ภคินีภริยา ๑ ทาสีภริยา ๑ สขีภริยา ๑ เป็น ๗ จำพวก ดังนี้ ฯ

   ที่ ๑ ชื่อว่าวะธะกาภรรยา เมียเป็นข้าศึกแก่สามี คือ คิดประทุษร้ายแก่สามีอยู่เนือง ๆ มิได้ขาด

   ที่ ๒ ชื่อว่า โจรภรรยา เมียเป็นโจรคอยลักพาข้าวของแห่งสามี สิ่งของอันใดมีก็ลอบลักเอาไป ๑

   ที่ ๓ ชื่อว่า อัยกาภรรยา เมียข่มผัวให้อยู่ในอำนาจดังนายกับบ่าว ๑

   ที่ ๔ ชื่อว่า มาตาภรรยา เมียรักผัวดังมารดารักบุตรที่บังเกิดแต่ในอุทร ไม่ทำความเดือดร้อนให้เกิดมีแก่สามี ๑

   ที่ ๕ ชื่อว่า ภคินีภรรยา เมียดังน้องหญิงเป็นที่สมัครักยิ่งดังพี่น้องร่วมท้องมารดาเดียวกัน ๑

   ที่ ๖ ชื่อว่า ทาสีภรรยา เมียดังทาส ทาสี เป็นที่ยินดีเกรงกลัวผัวยิ่งนัก ทั้งกลัวทั้งรักเป็นที่เคารพนับถือ ๑

   ที่ ๗ ชื่อว่า สขีภรรยา เมียราวกะว่าสหาย เป็นเพื่อนเจ็บเพื่อนตายของสามีมิได้คิดหน่ายหนีออกจากกัน ๑ ภรรยา ๓ จำพวกข้างต้น ไม่ควรสงเคราะห์ ควรสงเคราะห์ภรรยา ๔ จำพวกข้างต้นข้างปลาย ฯ

   บัดนี้ จะว่าด้วยสามีสงเคราะห์ ภรรายาตามพระบาลีอรรถกถาต่อไป สามี แปลว่า บุรุษผู้เป็นใหญ่ในอันที่จะรักษาทั่วไปในที่ทั้งปวง ด้วยบทว่า สามิโก อะธิปะตีติ อารักขา ภรรยา มีบทว่า ภะริยันตีติ ปะริจะริยา แปลว่า หญิงใดประพฤติบริบูรณ์ด้วยความบำรุงบำเรอยิ่ง หญิงนั้นเรียกว่า ภรรยา

   อนึ่ง ภรรยาที่สามีควรจะสงเคราะห์มี ๒๐ จำพวก คือ หญิงที่มารดามอบให้ ๑ หญิงที่บิดามอบให้ ๑ หญิงที่บิดามารดาทั้งสองมอบให้ ๑ หญิงที่พี่หญิงพี่ชายมอบให้ ๑ หญิงที่น้องหญิงน้องชายมอบให้ ๑ หญิงที่ญาติมอบให้ ๑ หญิงที่ตระกูลมอบให้ ๑ หญิงที่ผู้มีศีลมีธรรมมอบให้ ๑ หญิงที่ผู้รักษามอบให้ ๑ หญิงอยากได้ทรัพย์แล้วก็มาอยู่ด้วย หญิงที่มีผู้ใหญ่จับมือคนทั้งสองใส่ลงในถาดน้ำ แล้วก็มอบให้ ๑ หญิงที่บุรุษช่วยปลงซึ่งภาระอันหนักแล้วก็มาอยู่ด้วย ๑ หญิงที่เป็นทาสแล้วยกขึ้นเป็นภรรยา ๑ หญิงที่ทำการจ้างแล้วให้เป็นภรรยา ๑ หญิงที่บุรุษไปรบข้าศึกชนะได้มาเป็นภรรยา ๑ หญิงที่ได้ร่วมสังวาสครั้งหนึ่งหรือสองครั้งก็เรียกว่าภรรยา ๑ หญิงที่ผู้ต้องอาชญามอบให้ ๑ หญิงที่ลอยน้ำและหลงเก็บมาเป็นภรรยา ๑ ภรรยาทั้ง ๒๐ จำพวกนี้ สามีควรสงเคราะห์

   อนึ่ง การสงเคราะห์แก่ภรรยา สมเด็จพระศาสดาทรงตรัสแก่สิงคาลมาณพว่า คะหะปะติปุตตะ ดูกรคฤหบดีบุตร สามีควรสงเคราะห์แก่ภรรยาด้วยเหตุ ๕ สถาน คือ ให้นับถือกล่าวยกย่องแก่ภรรยาด้วยวาจาอันอ่อนหวาน ไม่กล่าวคำอันดูหมิ่น ๑

   ที่ ๒ ว่า สามีอย่าโกรธทุบตีก่อน แล้วจึงสั่งสอนภายหลัง คือ ให้สั่งสอนต่อครั้ง ๑ หรือ ๒ ครั้ง

   ที่ ๓ ว่า สามีอย่าคิดนอกใจภรรยาเที่ยวหาภรรยาใหม่ เป็นที่ชอบใจของสตรีที่ปราถนาหาสามีแต่ผู้เดียว

   ที่ ๔ ว่า สามีจงให้ภรรยาเป็นใหญ่ในเคหะสถาน คือ เป็นคนเก็บทรัพย์ที่สามีได้มาจงมอบให้แก่ภรรยา ๑

   ที่ ๕ ว่า สามีจงแสวงหาเครื่องประกับให้แก่ภรรยา โดยสมควรแก่ทรัพย์และตระกูล ๑ เมื่อสามีสงเคราะห์ภรรยาพร้อมด้วยองค์ทั้ง ๕ แล้ว ภรรยาก็ควรจะสงเคราะห์แก่สามีประกอบด้วยองค์ ๕ ประการ คือ ฉลาดในการตกแต่งอาหารให้สามีรับประทาน ไม่มีความเกียจคร้านต้องให้ตักเตือน ๑

   ที่ ๒ ให้ภรรยานับถือญาติทั้งสองฝ่าย ญาติของสามีและญาติของตนให้เสมอกัน อย่ารังเกียจเดียดฉันท์ในญาติทั้งสองข้างด้วยฉันทาโทสา ๑

   ที่ ๓ ให้สามีภรรยามีใจชื่อตรงต่อสามี อย่าได้ไปยินดีคบชายอื่นมาสังวาส ๑

   ที่ ๔ ให้ภรรยาหมั่นภักดีปฎิบัติสามีให้เป็นที่ยินดีตามอัธยาศัยในกามารมณ์ ๑

   ที่ ๕ ให้ภรรยาเป็นผู้ฉลาดรักษาทรัพย์ที่สามีได้มาอย่าให้เสียหาย ๑

   อนึ่ง ความเสียหายแห่งทรัพย์นั้น คือ ไม่รู้ประมาณในการบริโภคอาหาร และการนุ่งห่มใช้สอยทรัพย์ ๑ เล่นการพนันต่าง ๆ มี ถั่ว โป หวย ไพ่เป็นต้น ๑ ความเกียจคร้านไม่ทำการงาน ๑ นักเลงสุรา ๑ นักเลงเจ้าชู้ ๑ เหล่านี้ท่านเรียกว่า เป็นความเสียหายแห่งทรัพย์ ถ้าหญิงใดปฎิบัติสามีพร้อมด้วย ๕ ดังกล่าวมานี้ หญิงนั้นชื่อว่า สงเคราะห์แก่สามี ความว่าสามีสงเคราะห์ภรรยาด้วยองค์ ๕ ภรรยาสงเคราะห์แก่สามีด้วยองค์ ๕ ดังว่ามานี้แล้ว สามีภรรยาคู่นั้นจะมีความเจริญทั้งโลกนี้และโลกหน้าสิ้นกาลนาน ฯ

   อีกอย่างหนึ่ง ให้สามีสงเคราะห์แก่ภรรยา ให้ตั้งอยู่ในประโยชน์ ๒ ประการ คือ ประโยชน์ชาตินี้ ๑ ประโยชน์ชาติหน้า ๑ ชาตินี้มี ๔ คือ ให้มีความเพียรหมั่นทำการงาน และแสวงหาทรัพย์ ๑

   ที่ ๒ ให้ฉลาดรักษาทรัพย์ที่ได้มาอย่าให้เสียหายด้วยอันตราย มีโจรลักเป็นต้น ๑

   ที่ ๓ ให้เลี้ยงชีพพอสมควรแก่ทรัพย์ อย่าเลี้ยงชีวิตให้เกินประมาณ ๑

   ที่ ๔ ให้คบมิตรสหายที่มีใจเป็นกุศล อย่าไปคบคนพาลสันดานบาป ๑ ประโยชน์ชาติหน้ามี ๕ คือ ให้มีจิตศรัทธาเลื่อมใส ในคุณพระรัตรตรัยเป็นต้น ๑

   ที่ ๒ คือ ให้มีศีล ๕ ศีล ๘ กรรมบท ๑๐ ประการ ๑

   ที่ ๓ คือ ให้หมั่นฟังธรรมเทศนาของพระพุทธเจ้า คือ พระสูตร พระวินัย พระปรมัตถ์ ๑

   ที่ ๔ คือ ให้บริจากทานมีข้าวและน้ำเป็นต้น ๑

   ที่ ๕ คือ ให้มีปัญญาพิจารณาสังขารให้เห็นเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ๑ อีกอย่างหนึ่ง สามีจงอนุเคราะห์แก่ภรรยา สั่งสอนให้สวดมนต์ภาวนาบูชาพระรัตนตรัย และชักชวนภรรยาให้ทำการกุศล ศีล ภาวนา และฟังธรรมเทศนาเป็นต้น เหล่านี้เรียกว่า สามีสงเคราะห์แก่ภรรยา เป็นที่สรรเสริญเคารพบูชาแก่เทพยดาทั้งหลาย มีพระอินทราเป็นต้น...

            ย้อนกลับ         ปิดหน้านี้         ถัดไป