สาธินราชา

    ในอาดีตกาลพระโพธิ์สัตว์เป็นพระราชาทรงพระนามว่า “สาธินะ” ในเมืองมิถิลา รับสั่งให้สร้างโรงทานไว้ ๖ แห่ง แล้วทรงบริจากทรัพย์ ๖ แสนทุกวัน ทรงรักษาศีล ๕ บ้าง ทรงรักษาอุโบสถศีลบ้าง

    แม้พวกชาวเมืองก็ตั้งอยู่ในโอวาทของพระองค์ ทำบุญให้ทานเป็นต้น ตายไปก็ไปเกิดในสวรรค์ทั้งนั้น ได้ไปนั่งที่เทวสภานั้นแล้วต่างก็พรรณาคุณแห่งศีลและอาจาระ คือความประพฤติของพระราชาอยู่ทีเดียว ฝ่ายเทพยดาที่เหลือฟังคุณกถานั้นแล้ว มีความประสงค์จะเห็นพระราชา

    ท้าวสักกะทรงทราบความใจของทวยเทพเหล่านั้น จึงทรงบัญชามาตลีเทพบุตรว่า ท่านจงไปนำพระเจ้าสาธินะมาด้วยเวชยันตรถ มาตลีเทพบุตรจึงลงไปสู่เมืองมิถิลานำพระองค์มา ทวยเทพพร้อมด้วยพระอินทร์เห็นพระองค์แล้วต่างร่าเริงยินดี ทำการต้อนรับแล้ว

    ที่นั้นท้าวสักกะได้แบ่งเทพนคร นางอัปสรโกฎิครึ่ง และเวชยันตปราสาทครึ้งหนึ่งให้แก่พระเจ้าสิธินะ พระบาทท้าวเธอเสวยทิพยสมบัติอยู่ ๗๐๐ ปีล่วงไปแล้ว โดยการนับอย่างมนุษย์ ต่อมาบุญอันเป็นเหตุอยู่ในเทวโลก โดยอัตภาพนั้นสิ้นแล้ว ความไม่ยินดีก็เกิดขึ้น

    องค์อมรินทร์ทรงทราบเหตุนั้น จึงทรงบัญชาให้มาตลีเทพบุตรนำลงไปลงที่อุทยาน นายอุทยานเห็นดังนั้นแล้ว ได้กราบทูลแก่ พระเจ้านารทะ ผู้เป็นพระปนัดดาองค์ที่ ๗ ของพระองค์ (ทราบว่าเวลานั้นคนมีอายุขัย ๗๐๐ ปี)

    ฝ่ายพระเจ้านารทะเชิญให้เสวยราชสมบัติแล้ว พระเจ้าสาธินะตรัสว่า เราไม่มีความต้องการด้วยราชสมบัติ เพราะว่าเรามาในที่นี้เพื่อต้องการทำบุญ เรามีความประสงค์ที่จะให้ทานซึ่งหยุดเสียตั้ง ๗๐๐ ปี เพียง ๗ วันเท่านั้น

    พระเจ้านารทะจึงทรงจัดแจงมหาทานพระโพธิ์สัตว์ทรงให้ทานตลอด ๗ วัน ในวันที่ ๗ สวรรคตแล้ว บังเกิดในภพดาวดึงส์นั้นเอง ดังนี้

← ย้อนกลับ        ปิดหน้านี้          ถัดไป →