พญาฉัททันต์

   เรื่องที่พระพุทธเจ้าเสวยพระชาติเป็น พญาฉัททันต์ นั้น มีปรากฏอยู่ในชาดกว่า

   ยังมีนางภิกษุณีสาวรูปหนึ่ง ในขณะที่นั้งฟังพระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมอยู่นั้น ได้ระลึกชาติหนหลังว่า ตนเคยเกิดเป็นนางพญาช้าง ซึ่งเป็นภรรยาของพญาช้างฉัททันต์ ต่อมาได้ให้นายพรานฆ่าพญาช้างนั้น ครั้นนึกได้อย่างนี้จึงร้องให้ขึ้นในท่ามกลางคนทั้งหลาย

   พระศาสดาทรงปรารถเหตุนี้แล้ว จึงทรงตรัสเล่าให้ภิกษุทั้งหลายฟังว่า ในอดีตกาลพญาฉัททันต์มีอัครมเหสีอยู่ ๒ เชือก ชื่อว่า จูฬสุภัททา และ มหาสุภัททา ได้อาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์ พร้อมกับบริวารทั้งหลาย และได้กระทำการบูชากราบไหว้พระปัจเจกพุทธเจ้า ๕๐๐ องค์อยู่เป็นนิจ

   ต่อมานางจูฬสุภัททาเกิดน้อยใจ ได้ผูกในอาฆาตพยาบาทพญาฉัททันต์ จึงได้นำผลไม้ไปถวายพระปัจเจกพุทธเจ้า ตั้งความปรารถนาว่าขอให้ได้ไปเกิดเป็นพระมเหสีของพระเจ้าพาราณสี ครั้นปรารถนาดังนี้ จึงได้อดอาหารจนถึงแก่ความตาย แล้วก็ได้ไปเกิดเป็นพระมเหสี มีพระนามว่า สุภัททา สมความปรารถนา

   ครั้นพระนางระลึกชาติหนหลังได้ จึงได้ให้นายพรานไปดังยิงพญาฉัททันต์ ด้วยลูกศรอาบยาพิษ พญาช้างไดรับความเจ็บปวดมากจึงเอื้อมงวงจับไว้จะฆ่าเสีย แต่พอได้เห็นผ้ากาสาวพัสตร์ที่นายพรานเอามาคลุมศรีษะไว้ อันเป็นธงชัยของพระอรหันต์ ที่ตนมีความเคารพเลี่อมใสอยู่ จึงยับยั่งใจเอาไว้ได้

   เมื่อชักถามจนทราบความแล้วไซร้ จึงก้มศรีษะลงให้นายพรานเลื่อยเอางา ในขณะที่เลื่อยนั้น พญาช้างได้รับความเจ็บปวดมาก มีโลหิตไหลออกมาเต็มปาก พอนายพรานลับตาไปแล้ว นางพญาช้างมหาสุภัททาพร้อมกับบริวารก็มาถึง พอดีกับพญาฉัททันต์ได้สิ้นใจตายไปแล้ว

   ฝ่ายพระนางสุภัททาได้เห็นงาพญาช้างผู้เคยเป็นสามีที่รักของตน จึงเกิดความสลดใจจนถึงกับหัวใจแตกสลายลงไปทันที

   ครั้นสมเด็จพระชินสีห์ทรงแสดงเรื่องนี้จบแล้ว จึงทรงประชุมชาดกว่า พระนางสุภัททา ได้มาเกิดเป็นภิกษุณีสาวรูปนี้ พญาฉัททันต์ นั้น คือตัวเราตถาคตในบัดนี้

← ย้อนกลับ        ปิดหน้านี้          ถัดไป →