แค้นนี้ต้องชำระ

   รถปิคอัฟคันนั้นวิ่งตะบึงมาจอดยังหมู่บ้านชานเมืองแห่งหนึ่ง แล้วมาจอดสนิทที่บ้านหลังนี้ชายวัย ๓๐ กว่า ๆ ยังไม่ทันลงจากรถฝูงหมา ๓-๔ ตัวก็พากันเห่าห้อมล้อม จนชายวัยกลางคนผู้เป็นเจ้าของบ้านต้องรีบออกมาไล่พวกมัน ชายหนุ่มผู้นั้นถึงได้ลงจากรถได้ ยกมือไหว้ทำความเคารพเจ้าของบ้าน

   “ สวัสดีครับลุง ”

   “ ครับ หวัดดี เชิญข้างในบ้านเลยครับ ”

   “ ขอบคุณครับ นิตยาอยู่หรือเปล่าครับ ”

   ชายหนุ่มเอ่ยถามถึงหญิงสาวที่เขาหมายปอง ในบณะที่เดินเคียงคู่ไปกับเจ้าของบ้านเข้าสู่ห้องรับแขก

   “ ไปซื้อของในตลาดครับ เดี๋ยวก็กลับ เชิญนั่งก่อนซิครับ ”

   เจ้าของบ้านกล่าวตอบเชื่อเชิญ ชายหนุ่มรีบทำตาม

   “ ถ้าลุงมีธุระอะไรก็เชิญลุงเถอะครับ. .”

  เจ้าของบ้านขอตัวแล้วเดินหายเข้าไปทางหลังบ้าน ปล่อยให้ชายหนุ่มนั่งคอยคนรัก จมอยู่ในห่วงคิดคำนึง หนุ่มผู้นี้ชื่อว่า ชัชชัย เป็นเจ้าของร้านค้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปอยู่ในตัวจังหวัด เขามีเมียมีลูกแล้ว และนิสัยเจ้าชู้เขามาได้นิตยาเป็นเมียลับ ๆ อีกคน และดูเหมือนว่าเขาจะรักนิตยามากกว่าสาว ๆ ที่เขามีอยู่หลายคน เขาแอบหนีเมียที่ร้านมาหานิตยาเป็นประจำ ดูเหมือนว่าเขาจะรักและหลงนิตยามากจึงต้องมาหาเธอทุกวัน ดังเช่นวันนี้ เขานั่งคอยเธอด้วยใจกระวนกระวายไม่นานเท่าไหร่ แม่กับนิตยาก็กลับมาจากตลาด

   “ อ้าว เฮียชัย มานานแล้วเหรอคะ ” นิตยาเข้ามาอ้อนออด

   “ มาได้สักพักหนึ่งแล้ว ซื้ออะไรมาเยอะแยะเชียว ”

   “เครื่องครัวคะ”

   เธอตอบพร้อมกับส่งของให้แม่ก่อนนั่งลงข้างๆ ชายหนุ่ม คุยหยอกล้อกันอย่างมีความสุข ไม่เฉลียวใจเลยว่า มีรถมอเตอร์ไซค์มาจอดอยู่หน้าบ้าน เวิไลที่แอบติดตามสามีมาอย่างเงี่ยบ ๆ แล้วจู่ ๆ ก็เดินโผล่เข้ามาถึงห้องรับแขกอย่างถือวิสาสะ เพราะลมเพชรหึง หน้าบึ้งตวาดก้อง

   “ เฮียชัย ”

   ชายหนุ่มเจ้าของนามถึงกับสดุ้งเมื่อจำเสียงได้ดี รีบเหลี่ยวหลังไปดู

   “ วิไล ...มาได้ไง..มาทำไม..? ”

    “แล้วเฮียล่ะ มาทำไม!” เป็นการย้อนถามที่หาคำตอบได้อย่างยากเย็น

   “ พี่มาธุระ...เรื่องงาน” ตอบอย่างกระท่อนกระแท่น

  “มาติดต่อให้คุณนิตยาช่วยขายเสื้อผ้าเงินผ่อนให้ไงจ๊ะ”

   ชายหนุ่มรีบออกตัว แต่วิไลกลับยิ้มเยาะ

   “อ๋อ....นังนี่หนะเหรอชื่อ..นิตยา เฮียไม่ต้องมาแก้ตัว ฉันสืบมาแล้วว่าเฮียกับนังนี่เป็นอะไรกันนานแล้ว กลับบ้านเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นมีเรื่องแน่ๆ”

   “...โธ๋...วิไลจ๋าาาทำอะไรให้มีเหตุผลบ้างสิจ๊ะ พี่กับนิตยาไม่...เอ้อ...ๆๆ”.

   “ เฮียไม่ต้องมาพูด..จะกลับหรือไม่กลับ...ถ้าไม่นังนี่ตายแน่...”

  ไม่ใช่คำขู่อย่างเดียวเพราะเธอล่วงเอาสิ่งหนึ่งออกมา..แล้วจ้องมาที่ผู้หญิงคนนั้น ชัทชัยถึงกับตกตลึงตาค้างรีบลุกขึ้นมาจูงมือเมียกลับบ้านทันที โดยมีสายตาที่อาฆาตแค้นของนิตยา...

   เย็นวันนั้น วิไล หรือเจ้วิไลอยู่ในร้านขายของตามปกติกับเฮียชัชชัย ไม่มีลางสังหรณ์ใด ๆ บอกให้รู้เลยว่าจะมีมัจจุราชมากระชากวิญญาณของเจ้วิไล ได้มีชายคนหนึ่งนุ่งกางเกงยีนสวมเสื้อยืดและทับด้วยเสื้อแจ็ตเก็ตเดินเข้ามาทำทีเลือกดูโน้นดูนี้..และต่อราคา

   “ ตัวนี้เท่าไหร่เจ้ ”

   “เสื้อตัวนี้ ๒๕๐ บาทก็แล้วกัน”

   “ ๒๐๐ ถ้วน ก็แล้วกัน”

   “ขออีก ๓๐ บาทก็แล้วกัน..” เธอตอบลูกค้าอย่างไม่นึกว่าถวามตายได้มาถึงตัวแล้ว

   “ เอา..ตกลงตัวนี้ก็แล้วกันเจ้ ”

   เจ้วิไลรับเสื้อมาหันหลังให้ลูกค้า เตียมจะใส่ถุงให้ และแล้วทูตนรกผู้นั้นก็วาดกระบอกปืนขึ้นมาจ่อที่ศีรษะแล้วเหนี่ยวไกเปรี้ยง.....เสียงก้องราวฟ้าผ่า ร่างบอบบางของวิไลถลาตามแรงของปืนล้มฟาดพื้นสิ้นใจตายคาที่เลือดปนมันสมองกระจายไหลทะลักออกมาจากบาดแผลราวกับน้ำพุ ฆาตกรรีบหันหลังวิ่งไปขึ้นรถมอเตาร์ไซค์ที่เพื่อนติดเครื่องรออยู่แล้วพุ้งหายไปอย่างไร้ร่องรอยปล่อยให้เยื่อนอนตายอย่างปริศนา ซึ่งชาวบ้านร้านค้าได้ออกมายืนมุงดูและวิภาควิจารกันไปต่างๆ นา ๆ มีคนที่รู้เรื่องนี้ดีที่สุดก็คือชัทชัยสามีของผู้ตายนั้นเอง ว่าใครอยู่เบื้องหลังความตายของภรรยานี้

   “ ไม่น่ารุนแรงถึงขนาดนี้เลย นิตยา ”

   ชัชชัยได้แต่ลำพึงในใจ ไม่กล้าส่งเสียงออกมาให้ใครได้ยิน..ศพของวิไลถูกจัดขึ้นท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของผู้ที่อาลัยรักในตัวของผู้ตายเป็นอย่างยิ่ง ชัทชัยเองก็เก็บตัวเงียบไม่กล้าย่างกรายออกไปไหน จนกระทั้ง ๗ วันผ่านไป เขาจึงไปหานิตยาในตอนค่ำคืนนึ่งด้วยความคิดถึงเพราะไม่ได้พบหน้ากันมาหลายวันแล้ว

   “นิต ไม่น่าทำรุนแรงอย่างนี้เลย เฮียสงสารวิไลรู้ไหม”

   ชัชชัยต่อว่าทันทีที่อยู่ด้วยกันสองต่อสอง

   “ถ้านิต ไม่ทำอย่างนี้ เธอก็ต้องทำนิต มันช่วยไม่ได้...เฮียอย่ามาพูดเลยคะ เสียอารมณ์เปล่า ๆ ว่าแต่เฮียเถอะเมื่อไหรจะมาขอแต่งงานกับนิตให้เป็นเรื่องเป็นราวเสียทีละ”

   “คงไม่เกิน ๓ เดือนหรอก ให้เรื่องของวิไลสงบเรียบร้อยดีเสียก่อน ใจเย็นๆ ก่อนนะ เดี๋ยวจะมีคนสงสัยเอาว่าเมียตายไม่เท่าไหรก็แต่งเมียใหม่แล้ว..อยู่ไปแบบนี้ก่อนนะจ๊ะ”

   ชายหนุ่มพูดปลอบเอาใจและโอบกอดสาวเจ้าด้วยแรงเสน่ห์หา....และให้ดิ้นตายเถอะ..ดวงตาของนิตยาที่งดงามเย้ายวน..กลับแข็ง ๆ กลอกกลิ้งไปมา ร่างกายของเขาแข็งทื่อขยับเขยื่อนไม่ได้ ได้แต่นั่งนิ่งๆ มันไม่ใช่ตาของนิตยา..แล้วเสียงของเธอที่เล็ดลอดออกมานั้น..

   “เฮีย ไม่น่ามายุ่งกับอีนังนี่มันเลย ไม่งั้นฉันคงไม่ตายแบบนี้”

   เสียงที่เปล่งออกมาจากปากของนิตยาดูเศร้าสร้อย ชัทชัยเองจำได้ดีว่าคือเสียงของวิไลเมียที่เพิ่งตายไปนั้นเอง

   “ เฮียผิดไปแล้ว วิไล ยกโทษให้เฮียด้วย ”

   เขาได้แต่รำพึงในใจ ขยับปากพูดไม่ได้ แต่คล้ายกับวิญญาณของวิไลที่สิงร่างของนิตยาจะรับรู้ เพราะเขาได้คำตอบมาว่า

   “ วิไลยกโทษให้เฮีย แต่นังนี้วิไลไม่ยกโทษให้ มันต้องได้รับกรรมที่ได้ทำไว้ ”

   ชัชชัยแทบสิ้นสติเมื่อนิตยาใช้มือบีบคอตัวเองอย่างแรงปากที่สวยได้รูปอ้าค้างลิ้นยื่นยาวออกมาจุกปาก ใบหน้างามที่ชวนหลงใหลนั้นเริ่มแดงก่ำและดำคล้ำขึ้นๆดวงตาเริ่มถลนปูดโปนเหลือกลาน มีเสียงลมหายใจติดขัดเลือดออกจากปากและจมูกเป็นสายน้ำ เสียงสุดท้ายที่เขาได้ยิน มันเป็นเสียงกระดูกลำคอหักดังกร๊อบ แล้วร่างนั้นก็สงบนิ่งไม่ไหวติง

   “ นิตยา ๆๆ ”

   เขาร้องเรียกหญิงสาวอย่างบ้าคลั้งเมื่อร่างกายของเขาขยับได้ เขารีบถลันเข้าไปประคองเธอ แต่มันสายไปเสียแล้ววิญญาณที่ชั่วร้ายของนิตยาได้หลุดลอยออกจากร่างเพื่อไปชดใช้กรรมที่ตามสนองด้วยแรงอาฆาต ให้ตายตกไปตามกันเสียแล้ว

   ชัชชัยเองต้องติดคุก ข้อหาฆ่าคนตายอย่างโหดเหี้ยม...เขาคือต้นเหตุแห่งกรรม ลงท้ายเหลือเพียงเขาคนเดียวที่ต้องชดใช้กรรมแห่งผู้ก่อในขณะที่ยังมีลมหายใจอยู่ พ้นกรรมในโลกนี้เมื่อไหร่ ..นรกคงมาบัญชาเขาด้วยข้อหา ผิด ศีล ทั้ง มุสา และกาเม เพื่อนๆ ที่รักสนุกอย่างเขายังมีอีกมาก.....นรกคงไม่ไม่เงียบเหงาหรอก..