ผู้ที่ตายจากช้าง
มาเกิดเป็นคนแล้วบวชเป็นแม่ชี

    “ ได้มีผู้มาเล่าให้อาตมาฟังถึงทุกข์ตอนที่อยู่ในท้องแม่ ซึ่งคนเล่าได้ตายไปนานแล้ว

    เรื่องมีอยู่ว่าเวลานั้นอาตมาบวชได้ ๒ พรรษา ได้มีแม่ชีอายุประมาณ ๖๐ ปีเศษ อยู่จังหวัดสุรินทร์ ท่านเล่าว่าก่อนที่ท่านจะมาเกิดเป็นคน ท่านเป็นลูกช้าง เจ้าของอยู่ตำบลหนึ่งในจังหวัดสุรินทร์ สมัยนั้นที่แม่เป็นช้างเคยนำลูกช้างไปอาบน้ำที่บึง ๆ หนึ่ง น้ำเย็นมากมีความสุข ต่อมาลูกชายของเจ้าของบ้านขี่คอท่านนำไปอาบน้ำ ตอนกลับทางที่ผ่านมีกิ่งไม้ กิ่งไม้มันต่ำ ท่านบอกท่านก็ย่อตัวถึงที่สุดเข้าใจว่าพ้นแล้ว ก็เงยหน้าขึ้นมา ก็พอดีลูกชายเจ้าของบ้านสะดุดกิ่งไม้ตกจากคอช้าง เขาโกรธพอขึ้นคอได้ก็เอาขอสับเอา ๆ ก็วิ่งกลับบ้าน ท่านบอกขอสับนี่เจ็บมาก

    ต่อมาไม่นานเขาก็บอกให้พ่อเขาขาย บอกว่าช้างตัวนี้คบไม่ได้ทรยศ พ่อกับแม่บอกลูกชายว่าไม่ควรจะขาย พ่อกับแม่ช้างก็อยู่ที่นี่ดีอยู่ แต่ลูกชายไม่ยอม ในที่สุดก็ต้องขายอย่างจำใจเพราะลูกชายต้องการจะให้ขาย เมื่อขายแล้วลูกช้างก็ไปอยู่กับเจ้าของใหม่ ท่านบอกว่าคิดถึงเจ้าของเก่า ก็เลยกินไม่ได้นอนไม่หลับ ผอมลง ๆ ไม่ช้าก็ตาย    พอตายแล้วจิตที่ออกจากร่างช้างมันเป็นคนมีเสื้อใส่มีผ้านุ่ง

    เมื่อออกมาแล้วอาศัยจิตเดิมคิดถึงเจ้าของเดิม ( คนนี้ระลึกขาติได้ชาติหนึ่ง ) ก็ตั้งใจจะไปหาเจ้าของเดิม เดินลัดป่าลัดทุ่งไปบ้าง วันนั้นถึงเวลาเพลลัดเข้าไปในวัด หมาวัดมันใล่กัด ท่านบอกหลบหมาเสียเกือบตาย หมาเก่งเพราะเห็นผีได้ เวลานั้นท่านเป็นผี เลิกเป็นช้างเป็นคนแล้ว พอมาถึงบ้านที่เจ้าของเดิมอยู่ ปรากฏว่าไม่มีบ้านเขาถอนไปแล้ว ท่านก็ถามเทวดาที่นั้น ท่านก็บอกว่า “ เจ้าของบ้านเขารื้อไปอยู่ต่างตำบล  ” ท่านก็ตามไปจนพบ เมื่อพบแล้วก็เข้าบ้านไม่ได้ พอจะเข้าเขตบ้าน ภูมเทวดาก็ห้ามเข้าเพราะเป็นผีภายนอกเข้าไม่ได้ เกรงจะทำอันตรายเจ้าของบ้าน ท่านต้องยืนคอยอยู่ปากตรอก ๓ วัน

    พอวันที่ ๓ ตอนเย็นพ่อบ้านไม่ทราบว่าไปไหนมา พอถึงปากตรอกบ้านก็ยืนปัสสาวะ ท่านเลยได้โอกาสโดดเกาะคอเข้ามา พอเกาะคอเจ้าของบ้านเข้ามา เทวดาเจ้าของที่ก็ว่าไม่ได้ เพราะถือว่าเจ้าของบ้านให้เข้ามา จึงปล่อยไป

   พอเข้าไปถึงบ้านท่านบอกว่า เข้าไปอยู่ในห้อง ๆ หนึ่งมันกว้างขวางมาก นั่งสบายนอนสบายแต่ความจริงห้องที่อยู่นั้นคือมดลูกของแม่นั้นเอง เวลานั้นไม่ได้เข้าใจว่าเป็นท้องแม่ แต่มารู้ทีหลัง หนักเข้า ๆ ก็รู้สึกว่าตัวมันใหญ่ขึ้นมาทีละน้อย ๆ ใจไม่ได้โทษตัวโตแต่ไปโทษห้องมันเล็กลง ชักคับห้องทุกที ผลที่สุดเหยียดแขนเหยียดขาไม่ไหว ก็งอแขนงอขา หนักเข้า ๆ มันทนปวดเมื่อยไม่ไหว มันเป็นทุกข์ก็ต้องหาทางออก ออกมาก็เป็นลูกชาวบ้าน

    อาตมาถามว่า “ โยมชีเมื่อทราบอย่างนี้แล้ว อยากเกิดเป็นคนอีกไหม”

    ท่านตอบว่า “ ไม่ต้องการเกิดแล้วค่ะ เลิกเกิด ”

   รวมความว่าการอยู่ในครรภ์มารดา มันทุกข์ตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา มันก็ทุกข์อย่างนี้ มันทุกข์ตั้งแต่ก่อนเราคลอด ที่พระพุทธเจ้าตรัวว่า “ ความเกิดเป็นทุกข์ ” มันทุกข์ตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา แต่เราจำไม่ได้

♠   จากหนังสือตายแล้วไม่สูญ - หลวงพ่อฤษีลิงดำ   ♠